|
AND
find keywords in
Home Page
Genesis ปฐมกาล Exodus อพยพ Leviticus เลวีนิติ Numbers กันดารวิถี Deuteronomy พระราชบัญญัติ Joshua โยชูวา Judges ผู้วินิจฉัย Ruth นางรูธ 1 Samuel 1 ซามูเอล 2 Samuel 2 ซามูเอล 1 Kings 1 พงศ์กษัตริย์ 2 Kings 2 พงศ์กษัตริย์ 1 Chronicles 1 พงศาวดาร 2 Chronicles 2 พงศาวดาร Ezra เอสรา Nehemiah เนหะมีย์ Esther เอสเธอร์ Job โยบ Psalms เพลงสดุดี Proverbs สุภาษิต Ecclesiastes ปัญญาจารย์ Song of Solomon เพลงซาโลมอน Isaiah อิสยาห์ Jeremiah เยเรมีย์ Lamentations เพลงคร่ำครวญ Ezekiel เอเสเคียล Daniel ดาเนียล Hosea โฮเชยา Joel โยเอล Amos อาโมส Obadiah โอบาดีย์ Jonah โยนาห์ Micah มีคาห์ Nahum นาฮูม Habakkuk ฮาบากุก Zephaniah เศฟันยาห์ Haggai ฮักกัย Zechariah เศคาริยาห์ Malachi มาลาคี Matthew มัทธิว Mark มาระโก Luke ลูกา John ยอห์น Acts กิจการ Romans โรม 1 Corinthians 1 โครินธ์ 2 Corinthians 2 โครินธ์ Galatians กาลาเทีย Ephesians เอเฟซัส Philippians ฟีลิปปี Colossians โคโลสี 1 Thessalonians 1 เธสะโลนิกา 2 Thessalonians 2 เธสะโลนิกา 1 Timothy 1 ทิโมธี 2 Timothy 2 ทิโมธี Titus ทิตัส Philemon ฟีเลโมน Hebrews ฮีบรู James ยากอบ 1 Peter 1 เปโตร 2 Peter 2 เปโตร 1 John 1 ยอห์น 2 John 2 ยอห์น 3 John 3 ยอห์น Jude ยูดาส Revelation วิวรณ์
|
|
|
เอเฟซัส Chapter4 1 เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าผู้ถูกจำจองเพราะเห็นแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอวิงวอนท่านให้ประพฤติสมกับที่ท่านทั้งหลายถูกเรียกแล้วนั้น 2 คือจงมีใจถ่อมลงทุกอย่างและใจอ่อนสุภาพ อดกลั้นไว้นาน และอดทนต่อกันและกันด้วยความรัก 3 จงเพียรพยายามเอาสันติสุขผูกมัดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวแห่งพระวิญญาณ 4 มีกายเดียวและมีพระวิญญาณองค์เดียว เหมือนมีความหวังใจอันเดียวที่เนื่องในการที่ทรงเรียกท่าน 5 มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อเดียว บัพติศมาเดียว 6 พระเจ้าองค์เดียวผู้เป็นพระบิดาของคนทั้งปวง ผู้ทรงอยู่เหนือคนทั้งปวง และทั่วคนทั้งปวง และในท่านทั้งปวง 7 แต่ว่าพระคุณนั้นทรงโปรดประทานแก่เราทุกๆคนตามขนาดที่พระคริสต์ทรงประทานให้ 8 เหตุฉะนั้นพระองค์ตรัสไว้แล้วว่า `ครั้นพระองค์เสด็จขึ้นสู่เบื้องสูง พระองค์ทรงนำพวกเชลยไปเป็นเชลยอีก และประทานของประทานแก่มนุษย์' 9 (ที่กล่าวว่าพระองค์เสด็จขึ้นไปนั้น จะหมายความอย่างอื่นประการใดเล่า นอกจากว่าพระองค์ได้เสด็จลงไปสู่เบื้องต่ำของแผ่นดินโลกก่อนด้วย 10 พระองค์ผู้เสด็จลงไปนั้น ก็คือพระองค์ผู้ที่เสด็จขึ้นไปสู่เบื้องสูงเหนือฟ้าสวรรค์ทั้งปวงนั่นเอง เพื่อจะได้ทำให้สิ่งสารพัดสำเร็จ) 11 พระองค์จึงให้บางคนเป็นอัครสาวก บางคนเป็นศาสดาพยากรณ์ บางคนเป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาล และอาจารย์ 12 เพื่อเตรียมวิสุทธิชนให้ดีรอบคอบ เพื่อช่วยในการรับใช้ เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ให้จำเริญขึ้น 13 จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อและในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า จนกว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์ 14 เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไปถูกซัดไปซัดมาและหันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสั่งสอนทุกอย่าง และด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายฉลาดอันเป็นการล่อลวง 15 แต่ให้เราพูดความจริงด้วยใจรักเพื่อจะจำเริญขึ้นทุกอย่างสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะคือพระคริสต์ 16 คือเนื่องจากพระองค์นั้น ร่างกายทั้งสิ้นที่ติดต่อสนิทและผูกพันกันโดยที่ทุกๆข้อต่อได้ช่วยชูกำลังตามขนาดแห่งอวัยวะทุกส่วน ร่างกายนั้นจึงได้จำเริญเติบโตขึ้นเองด้วยความรัก 17 เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขอยืนยันและเป็นพยานในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ท่านอย่าประพฤติอย่างคนต่างชาติ ที่เขาประพฤติกันนั้นคือมีใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ไม่มีสาระ 18 โดยที่ความเข้าใจของเขามืดมนไปและเขาอยู่ห่างจากชีวิตซึ่งมาจากพระเจ้า เพราะเหตุความโง่ซึ่งอยู่ในตัวเขา อันเนื่องจากใจที่แข็งกระด้างของเขา 19 เขามีใจปราศจากความสะดุ้งต่อบาป ปล่อยตัวทำการลามก ทำการโสโครกทุกอย่างด้วยความละโมบ 20 แต่ว่าท่านไม่ได้เรียนรู้จักพระคริสต์อย่างนั้น 21 ถ้าแม้ท่านได้ฟังเรื่องพระองค์ และได้รับการสอนโดยพระองค์ตามความจริงซึ่งมีอยู่ในพระเยซูแล้ว 22 ท่านจงทิ้งมนุษย์เก่าของท่านซึ่งคู่กับวิถีชีวิตเดิมนั้นเสีย อันจะเสื่อมเสียไปตามตัณหาอันเป็นที่หลอกลวง 23 และจงให้จิตวิญญาณของท่านเปลี่ยนใหม่ 24 และให้ท่านสวมมนุษย์ใหม่ซึ่งทรงสร้างขึ้นใหม่ตามแบบอย่างของพระเจ้า ในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง 25 เหตุฉะนั้นท่านจงเลิกพูดมุสาเสีย และ`จงต่างคนต่างพูดความจริงกับเพื่อนบ้าน' เพราะว่าเราต่างก็เป็นอวัยวะของกันและกัน 26 `โกรธก็โกรธเถิด แต่อย่าทำบาป' อย่าให้ถึงตะวันตกท่านยังโกรธอยู่ 27 และอย่าให้โอกาสแก่พญามาร 28 คนที่เคยขโมยก็อย่าขโมยอีก แต่จงใช้มือทำงานที่ดีๆกว่า เพื่อจะได้มีอะไรๆแจกให้แก่คนที่ขัดสน 29 อย่าให้คำหยาบคายออกมาจากปากท่านเลย แต่จงกล่าวคำที่ดี และเป็นประโยชน์ให้เกิดความจำเริญเพื่อจะได้เป็นคุณแก่คนที่ได้ยินได้ฟัง 30 และอย่าทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเสียพระทัย เพราะโดยพระวิญญาณนั้นท่านได้ถูกประทับตราหมายท่านไว้จนถึงวันที่ทรงไถ่ให้รอด 31 จงให้ใจขมขื่น และใจขัดเคือง และใจโกรธ และการทะเลาะเถียงกัน และการพูดเสียดสี กับการคิดปองร้ายทุกอย่าง อยู่ห่างไกลจากท่านเถิด 32 และท่านจงเมตตาต่อกัน มีใจเอ็นดูต่อกัน และอภัยโทษให้กันเหมือนดังที่พระเจ้าได้ทรงโปรดอภัยโทษให้ท่าน เพราะเห็นแก่พระคริสต์
|
|
|